ต้นกำเนิดของ “ฮวยหวย” หรือ “หวย”
คนไทยรับวัฒนธรรมการ
"ออกหวย" และ "เล่นหวย" มาจากเมืองจีน จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของจีนระบุว่า
การพนันทายตัวเลขหรือตัวหนังสือนี้มีขึ้นครั้งแรกในสมัยพระเจ้าเตากวาง
แห่งราชวงศ์ไต้เช็ง ประมาณ พ.ศ.2364 - 2394 การพนันทายตัวเลขหรือตัวหนังสือของจีน เรียกว่า
“ฮวยหวย” แปลว่า “ ชุมนุมดอกไม้ ” เหตุที่มีความหมายเช่นนี้ เพราะในตอนแรกเขียนตัวหวยเป็นรูปดอกไม้
ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็นชื่อชาวจีนผู้มีชื่อเสียงในสมัยโบราณ โดยทำป้ายเล็ก ๆ จำนวน 34 ป้าย เขียนชื่อคนโบราณเป็นภาษาจีนลงป้ายละชื่อ เช่น สามหวย ง่วยโป๊ เป็นต้น จากนั้นเจ้ามือจะเลือกป้ายชื่อคนเหล่านั้นหนึ่งอันใส่ในกระบอกไม้
ปิดปากกระบอกแขวนไว้กับหลังคาโรงหวย
ให้คนทายว่าจะเป็นชื่อผู้ใดใน 34 ชื่อนั้น ต่อมาได้เพิ่มชื่อขึ้นอีก 2 ชื่อ รวมเป็นตัวหวย 36 ตัว เมื่อ “ฮวยหวย” แพร่หลายมาถึงบ้านเราคนไทยก็พากันเรียกว่า “หวย” จนติดปากมาถึงทุกวันนี้
พ.ศ.2374 - 2375 กำเนิด "หวย" ครั้งแรกในไทย
กล่าวกันว่าหวยเข้ามาในประเทศไทยพร้อมกับชาวจีนอพยพกลุ่มหนึ่งในราวพ.ศ.2360 ในระยะแรกๆ นิยมเล่นกันเฉพาะในหมู่ชาวจีนอพยพเท่านั้น
จนกระทั่ง พ.ศ.2374 - 2375 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 3 เกิดข้าวยากหมากแพง เพราะปีหนึ่งน้ำมากแต่อีกปีหนึ่งเกิดฝนแล้ง จึงทำให้ข้าวขาดตลาดและมีราคาแพง
เงินตราที่หมุนเวียนก็หดหายไป
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเข้าพระทัยว่า คงเป็นเพราะมีผู้นำเงินตราไปซื้อฝิ่นมาเก็บไว้ขาย พระองค์จึงโปรดให้เอาฝิ่นมาเผาเสียมาก
แต่เงินก็ยังคงหายไปจากตลาดอยู่ ช่วงนั้นเอง เจ้าสัวผู้หนึ่งซึ่งเป็นนายอากรสุราชื่อว่า
"จีนหง" ได้เข้าเฝ้ากราบทูลว่า สาเหตุที่เงินหายไปนั้นเพราะราษฎรนำไปใส่ไหฝังดินไว้
ถ้าจะเรียกเงินขึ้นมา ต้องออกหวยให้คนเล่นเหมือนเมืองจีน รัชกาลที่ 3 ทรงเห็นพ้องกับความคิดของเจ้าสัวจีนหง จึงโปรดให้จีนหงออกหวยขึ้นครั้งแรก
เมื่อเดือนยี่ ปีมะแม พ.ศ. 2375 โดยผู้ที่ได้รับสัมปทานเป็นนายอากรหวยจะได้รับบรรดาศักดิ์เป็น
"ขุนบาลเบิกบุรีรัตน์" หรือคนทั่วไปเรียก “ขุนบาล”
ซึ่งเป็นผู้อำนวยการออกหวยทุกวัน ดังนั้น เจ้าสัวจีนหง
นอกจากจะเป็นนายอากรสุราแล้ว ยังเป็นนายอากรหวย มีตำแหน่งเป็นขุนบาลหารายได้ให้รัฐบาลอีกด้านหนึ่งด้วย
โดยรายได้จากอากรหวยมีจำนวนมากและได้กลายเป็นรายได้ที่สำคัญของรัฐ
ในช่วงแรก
การออกหวยตามแนวคิดของเจ้าสัวจีนหง จะออกหวยวันละครั้งในตอนเช้า
วิธีการออกหวยให้คนไทยเล่น ได้ปรับเปลี่ยนจากแผ่นป้ายรูปคนและเขียนชื่อชาวจีนและอักษรจีนมาเป็นอักษรไทย
แล้วตามด้วยชื่อคนจีนโบราณที่เขียนด้วยตัวอักษรไทย เช่น ก. สามหวย ข. ง่วยโป๊ เป็นต้น ทั้งนี้เป็นเพราะคนไทยอ่านหนังสือจีนไม่ออก
อักษรไทยที่ใช้เริ่มจาก ก ข ฃ ค ฅ เรื่อยไปตามลำดับ อักษรไทยที่ใช้เขียนออกหวยมี 34 ตัว ตัดอักษรทิ้ง 8 ตัว คือ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ ศ ษ
ด้วยเหตุที่เขียนอักษรไทยในแผ่นป้ายนี่เองจึงเป็นที่มาของ "หวย ก. ข."
![]() |
หวย ก. ข. |
วิธีเล่นหวย
ก. ข. นั้นไม่ยุ่งยาก
ผู้แทงหวยจะต้องไปซื้อหวยจากเสมียนที่ตั้งขายอยู่ตามมุมถนนต่างๆ
เมื่อซื้อแล้วเสมียนจะออกใบเสร็จรับเงินของโรงหวย
โดยมีข้อความเกี่ยวกับตัวอักษรหรือ ตัวเลขที่แทง วันเดือนปี และเวลาที่ออกหวย
จำนวนเงินที่แทง รวมทั้งรางวัลที่จะได้รับ
โดยข้อความเหล่านี้จะเขียนเหมือนกันทั้งต้นขั้วและปลายขั้ว เรียกว่า “โพย” ผู้ซื้อถือปลายขั้วไว้
ผู้ขายจะนำต้นขั้วมาส่งให้ขุนบาลก่อนกำหนดออก
เพื่อตรวจโพยก่อนว่าตัวไหนใครแทงมากน้อยเท่าใด ออกแล้วจะขาดทุนหรือกำไรเท่าใด
จากนั้นจึงนำตัวหวยที่คิดแล้วนี้ใส่ถุงชักรอกแขวนให้ประชาชนดูว่า หวยออกตัวนี้
ผู้แทงถูกจะได้รางวัล 30 ต่อรวมทั้งทุน ส่วนเสมียนก็ชักเปอร์เซ็นต์
1 ต่อ
ในสมัยรัชกาลที่ 3 โรงหวยตั้งอยู่ใกล้สะพานหัน แล้วย้ายมาอยู่ที่หน้าวังบูรพาภิรมย์ แต่เดิมออกหวยตอนเช้าวันละครั้ง
ต่อมาพระศรีวิโรจน์ได้กราบทูลขอตั้งขึ้นอีก 1 โรง
อยู่ที่บางลำพู ออกหวยตอนหัวค่ำ วันละครั้ง ในสมัยนั้นจึงมีหวย 2 โรง เรียกว่า โรงเช้าและโรงค่ำ
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 4 มีผู้ขอผูกอากรหวยออกไปตั้งที่เพชรบุรีและอยุธยา
แต่เล่นอยู่ไม่นาน พระองค์จึงโปรดให้เลิกหวยทั้งสองแห่งเสีย
เนื่องจากทรงเห็นว่าราษฎรยากจนลงกว่าเดิม
พ.ศ. 2417 กำเนิด "ลอตเตอรี่" หรือ
"สลากกินแบ่งรัฐบาล" ครั้งแรกในไทย
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดำริจะเลิกอากรหวย
แต่ก็ทรงเกรงว่าจะหารายได้แผ่นดินมาชดเชยไม่ทัน จึงเพียงแต่ผ่อนลดลดจำนวนโรงหวยและเบี้ยให้มีน้อยลงตามลำดับ
ต่อมาได้มีการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
โดยมีชาวอังกฤษชื่อ "ครูอาล บาสเตอร์" เป็นผู้นำลักษณะการออกรางวัลสลากแบบยุโรปมาเผยแพร่เป็นคนแรก
โดยเรียกว่า “ลอตเตอรี่” โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กรมทหารมหาดเล็กออกลอตเตอรี่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
เมื่อปี พ.ศ. 2417 เนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยเหลือพ่อค้าต่างชาติที่นำสินค้ามาร่วมแสดงในการจัดพิพิธภัณฑ์ที่ตึกคองคาเดีย
ในพระบรมมหาราชวัง และได้มีการออกลอตเตอรี่ในวาระพิเศษอีกหลายครั้ง
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อบำรุงสาธารณกุศล
พ.ศ. 2459 - 2460 สิ้นสุดหวย ก.ข.
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลิกบ่อนหวย
ก.ข. สำเร็จ ประกาศเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2459 แต่อย่างไรก็ตามยังมีผู้คนแอบเล่นหวยเบอร์กันจนถึงปัจจุบัน
โดยอาศัยเลขท้ายรางวัลของสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นตัวจ่ายรางวัลในการเล่นผิดกฎหมายนี้
หลังจากประกาศเลิกหวย
ก.ข. แล้วในปี พ.ศ. 2460 ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่
1 สหราชอาณาจักรอังกฤษซึ่งเป็นประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรประสงค์จะกู้เงินจากประเทศไทยเพื่อใช้ในการสงคราม
แต่ไม่อาจกู้โดยตรงจากรัฐบาลไทยได้ เพราะเป็นการกระทบกระเทือนงบประมาณ
สภารักชาติแห่งประเทศอังกฤษ จึงดำเนินนโยบายกู้เงินจากประชาชนด้วยการออกลอตเตอรี่
โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พ.ศ.2466 การออกลอตเตอรี่เสือป่าล้านบาท
![]() |
ลอตเตอรี่เสือป่าล้านบาท |
ต่อมาในปี
พ.ศ.2466 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ออก “ลอตเตอรี่เสือป่าล้านบาท” เพื่อหารายได้บำรุงกองเสือป่าอาสาสมัคร
ซึ่งพิมพ์จำนวน 1 ล้านฉบับ จำหน่ายฉบับละ 1 บาท ซึ่งวิธีการออกสลากในสมัยนั้นเพียงแค่นำเลขที่ออกรางวัลบรรจุกล่องทึบแล้วใส่ลงในไห
ตั้งเรียงตามลำดับจากหลักหน่วย สิบ ร้อย พัน หมื่น แสน
ก่อนออกรางวัลกรรมการจะจับสลากเพื่อทราบว่าครั้งนี้จะออกรางวัลที่เท่าใด
แล้วจึงให้กรรมการล้วงตลับบรรจุเลขหมายออกมาเปิดต่อหน้ากรรมการและประชาชนจนครบทุกรางวัลเป็นอันเสร็จการออกรางวัลสลากนั้น
พ.ศ. 2476 การออกลอตเตอรี่รัฐบาลสยาม
![]() |
ลอตเตอรี่รัฐบาลสยาม |
พ.ศ. 2477 -
2479 การออกสลากกินแบ่งบำรุงเทศบาล
ต่อมาในปีพ.ศ. 2477 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยออก “สลากกินแบ่งบำรุงเทศบาล” โดยกำหนดว่า หากเดือนใดเป็นเดือนที่ออกสลากกินแบ่งรัฐบาล เดือนนั้นให้งดจำหน่ายสลากกินแบ่งของเทศบาล โดยเริ่มจำหน่ายงวดแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2478 แล้วออกสลากเดือนเมษายน พ.ศ. 2479 โดยพิมพ์จำนวน 500,000 ฉบับๆ ละ 1 บาท และได้มีการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากบำรุงเทศบาลเรื่อยมา
ในปี
พ.ศ. 2482 ถือเป็นยุคที่สลากกินแบ่งรัฐบาลเริ่มดำเนินการอย่างจริงจัง โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้โอนกิจการสลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากบำรุงเทศบาล
มาสังกัดกระทรวงการคลัง และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลขึ้น
โดยมีพระยาพรหมทัตศรีพิลาสเป็นประธานกรรมการ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2482
ในวันดังกล่าวจึงถือเป็นวันสถาปนาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจนปัจจุบัน และการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ได้พัฒนาเรื่อยมาจนกระทั่งปี
พ.ศ. 2517 ได้มีการออกพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลขึ้น กำหนดให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นนิติบุคคล
และเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลัง
พ.ศ. 2538
เมื่อต้นปี
พ.ศ. 2538 สลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากการกุศลถูกรวมเข้าด้วยกันออกด้วยกันเดือนละ 2
ครั้ง
รายได้สุทธิที่ได้รับถูกจัดสรรให้แก่หน่วยงานต่างๆ ตามจุดประสงค์ของการออกสลาก
นอกจากนี้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยังได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้คนไทยหันมาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วยข้อความที่ว่า “วันนี้
ส่วนหนึ่งของการออกรางวัลทุกวงล้อที่หมุน คือ คุณภาพชีวิตที่คืนสู่สังคมไทย”
และภาพโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์เป็นภาพคนพิการ เด็กด้อยโอกาส และคนชรา
การประชาสัมพันธ์เชิญชวนเช่นนี้จึงมีอิทธิพลโน้มน้าวใจให้คนไทยผู้มีจิตกุศลได้ช่วยเหลือสังคมอีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามีช่องทางเสี่ยงโชคโดยซื้อสลากของรัฐ
แต่เนื่องจากสลากกินแบ่งฯ มีราคาแพง อีกทั้งไม่สามารถเลือกแทงเลขได้ตามความต้องการ
จึงมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารับเป็นเจ้ามือแทงหวยเสียเอง โดยอิงเลขท้ายของผลการออกสลากของรัฐเดือนละ
2 งวด หวยประเภทนี้รู้จักกันดีเรียกว่า “หวยใต้ดิน” การเล่นหวยใต้ดินสร้างรายได้มากมายให้เจ้ามือ
แต่เนื่องจากเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย จึงต้องมีผู้คุ้มครองซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ
เมื่อมีการแบ่งสรรผลประโยชน์ร่วมกัน
จึงเป็นต้นตอของการสร้างเครือข่ายของผู้มีอิทธิพลในชุมชนที่อาจขยายผลไปสู่ธุรกิจผิดกฎหมายอื่นๆ
อีกหลายประเภท
พ.ศ. 2546 กำเนิดโครงการ"สลากพิเศษแบบเลขท้าย
3 ตัว และ 2 ตัว" หรือ " หวยบนดิน"
สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
มีนโยบายสำคัญในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยเฉพาะเจ้ามือหวยใต้ดิน แต่ปัญหาหลักคือประชาชนส่วนใหญ่นิยมแทงหวยใต้ดินกันมาก
จึงมีการคิดวิธีการทำให้หวยใต้ดินเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย โดยรัฐบาลเป็นเจ้ามือรับแทงหวยเสียเอง
โครงการจำหน่าย "สลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว" หรือ "หวยบนดิน"
จึงเกิดขึ้น ตามมติครม. วันที่ 8 ก.ค. 2546 โดยให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำหน่ายตั้งแต่งวดวันที่ 1 ส.ค. 2546 ถึงงวดวันที่ 16 พ.ย.
2549 รวม 80 งวด
ประเภทของสลาก ออกแบ่งเป็น
- สลากชนิดราคา 20 บาท
พิมพ์ด้วยสีเขียวเหมือนสีของธนบัตร 20 บาท
- สลากชนิดราคา 50 บาท
พิมพ์ด้วยสีฟ้าเหมือนสีของธนบัตร 50 บาท
- สลากชนิดราคา 100 บาท
พิมพ์ด้วยสีแดงเหมือนสีของธนบัตร 100 บาท
หลังการยึดอำนาจรัฐบาลโดยคณะมนตรีเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ
(คมช.) รัฐบาลชั่วคราวของพล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ประกาศยกเลิกหวยบนดิน เมื่อวันที่
20 พฤศจิกายน 2549 เนื่องจากเห็นว่า
การออกหวยบนดินเป็นการทำผิดกฏหมายสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล น่าจะเข้าข่าย
พ.ร.บ.การพนันมากกว่า โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2552 ศาลได้ตัดสินคดีหวยบนดินโดยองค์คณะมีมติด้วยเสียงข้างมากว่า
มติ ครม.ในการอนุมัติให้ดำเนินการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว (หวยบนดิน) ฝ่าฝืนกฎหมาย
ทำให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานสลากกินแบ่งฯ ตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
พ.ศ.2517 มาตรา 5 และมาตรา 9 นอกจากนี้องค์คณะมีมติด้วยเสียงข้างมากว่า กรณีที่คณะรัฐมนตรี
และคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้นำรายได้ในการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว (หวยบนดิน) คืนสู่สังคมนั้น
ถือเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ.2491 มาตรา 4
และ มาตรา 13 และพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
พ.ศ.2517 มาตรา 23 และ มาตรา 27 ด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น